Wednesday, December 21, 2016

การปลูกและขยายพันธุ์กระชายดำ

ประวัติความเป็นมาของกระชายดำ: (Black Ginger) เริ่มแรกนั้นกระชายดำเป็นพืชสมุนไพรที่ชาวเขาเผ่าม้งมีเก็บติดบ้านติดเรือนไว้ใช้ในยามที่เจ็บไข้ได้ป่วย เช่น ปวดท้อง ปวดเมื่อยตามร่างกายจากการทำงานในไร่ ในสวน การปลูกก็จะปลูกติดบ้านไว้ ข้างบ้าน หลังบ้าน หรือในไร่ เท่านั้น ต่อมากหน่วยงานราชการได้ทำการวิจัย ค้นคว้าหาคุณสมบัติของกระชายดำ จึงได้รูปถึงคุณประโยชน์อันมากมายของกระชายดำ และอีกทั้งเริ่มมีคนสนใจทำมาใช้เป็นยาต่างๆ รวมถึงส่งออกไปขายยังต่างประเทศ การปลูกกระชายดำของไร่ทายาทเป็นสายพันธุ์ดั่งเดิมต้นกำเนิดมาจากชาวเขาเผ่าม้ง คัดสายพันธุ์กระชายดำที่ดำสนิท

การขยายพันธุ์: ใช้วิธีการแบ่งเหง้า ฤดูกาลขยายพันธุ์จะทำการเพาะปลูกในช่วงปลายร้อน ต้นฝน สำหรับเกษตรแปลงใหญ่ จะทำการเพาะปลูกก่อนที่ฝนจะลง แต่ถ้าต้องการผลิตหัวให้มีคุณภาพ ต้องปลูกขยายพันธุ์ตามฤดูกาล ช่วงประมาณ เดือน เมษายน ถึง พฤษภาคม และ ช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ประมาณ เดือน ธันวาคม ถึง มกราคม กระชายดำ ชอบที่ร่ม ดินร่วนซุยหรือดินปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี ชอบอากาศหนาวเย็น

ในการปลูกนั้น 1 ไร่ จะใช้หัวพันธุ์กระชายดำประมาณ 200-300 กิโลกรัม ส่วนการเก็บเกี่ยวนั้นจะได้ประมาณ 2000-2500 กิโลกรัมต่อไร่ ทั้งนี้ต้องอยู่ที่การดูแลรักษาด้วย


การขัดเลือกหัวพันธุ์ : หัวพันธุ์กระชายดำที่ดีนั้นควรคัดเลือก หรือขุดช่วงเดือนมกราคม เพราะเป็นช่วงที่กระชายดำแก่เต็มที่ ควรเลือกหัวพันธุ์กระชายดำจากแปลงที่คุณภาพดี

กระชายดำ หรือ โสมไทย: เป็นพืชสมุนไพรที่มีการตื่นตัวในเรื่องการบริโภคมาก ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากว่ามีสรรพคุณที่เชื่อกันว่าเป็นยาสมุนไพรอายุวัฒนะชั้นหนึ่งของไทย มาแต่โบราณกาลและสามารถเพิ่มพลังทางเพศให้กับผู้รับประทานได้ซึ่งชายไทยที่ เคยบริโภคต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เด็ดจริงๆ" กระชายดำ ยังเป็นพืชสมุนไพรที่สำคัญเพื่อใช้กินแก้ปวดเมื่อย เหนื่อยหอบ หืดหอบ ที่สำคัญเชื่อว่าเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้เป็นอย่างดี

ลักษณะของกระชายดำแท้ : Black ginger




สนใจกระชายดำเพื่อที่จะนำไปปลูกติดต่อไร่ทายาทที่ 089-695-1800
Line : tayatfarm
Email : saktayat@gmail.com

Tuesday, December 20, 2016

กระชายดำทำอะไรได้บ้าง?

วันนี้จะมานำชาวเราที่รักสุขภาพทั้งหลาย หรือผู้ที่หลงรักสมุนไพรไทยๆ อะไรๆ ก็ใช้แต่สมุนไพร ผมเองก็นิยมที่จะใช้สมุนไพรมากกว่ายาในโรงพยาบาล สำหรับสมุนไพรที่ดีอีกตัวหนึ่งที่ต้องมีไว้ใช้ประจำเลยคือ กระชายดำ ถ้าเรา ท่าน มีเวลาก็ลองค้นหาข้อมูล ประโยชน์ คุณสมบัติของสมุนไพรดีๆ กระชายดำดู เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ว่ากระชายดำทำอะไรได้บ้าง? ให้เวลาคิด  1 2 3 4 ใน internet เราจะเห็นว่าคนสนใจมากๆ ในตัวกระชายดำ แล้วเขาเล่านั้น ใช้กันอย่างไร เรามาดูกันได้เลย
1. กระชายดำแบบหัวสด วิธีใช้ก็มีเยอะนะ เช่นดองเหล้า ดองน้ำผึ้ง ทำน้ำหมักคุณภาพดีๆ
1.1 กระชายดำดองเหล้า นำรากเหง้า(หัวสด) ประมาณ 2-3 ขีด ต่อสุราขาว 1 ขวด ดองสุราขาวดื่มก่อนรับประทานอาหารเย็น ปริมาณ 30 ซีซี.
1.2 กระชายดำต้มน้ำร้อน ผู้ที่ดื่มสุราไม่ได้ ให้ฝานเป็นแว่นบางๆ ต้มน้ำร้อนดื่มทุกวัน
1.3 กระชายดำดองกับน้ำผึ้งก็ได้ ในอัตราส่วน 1:1 นำกระชายดำมาล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง หาขวดโหลใหญ่ๆ พอที่จะใส่กระชายดำ 1 กก. นำกระชายดำมาหันเป็นแว่นๆ แล้วนำไปใว้ในขวดโหล จากนั้นเทน้ำผึ้งลงไปให้ถ่วมกระชายดำ ตั้งทิ้งไว้ 7 วันก็สามารถตักน้ำผึ้งนั้นมาทานได้เลย วันละช้อนก่อนนอนจะได้สบาย
1.4 น้ำหมักกระชายดำ กระชายดำ 1 กก. น้ำตาลทรายแดง 1 กก. น้ำดื่มสะอาด 2 ลิตร ใครอยากได้ปริมาณมากๆ ก็เพิ่มตามอัตราส่วน น้ำตาลทรายแดงไม่ต้องใช้มาก นำกระชายดำมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นแว่นแล้วใส่ในขวดโหลที่เตรียมไว้ หลังจากน้ำเทน้ำตาลลงไป ตามด้วยน้ำสะอาด ทำการหมักไว้ 1 เดือน แล้วทำการกรองเอาน้ำหมักกระชายดำมาเก็บไว้ เติมน้ำสะอาดลงไปอีก 5 ลิตรและน้ำผึ้ง 1 ขวด หลังจากนั้นหาขวดสะอาดมาบรรจุไว้ปิดฝาให้สนิท ไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็น เก็บไว้ในห้องปกติ ดื่มวันละเป็กก่อนนอน
2. กระชายดำอบแห้ง ถ้าจะแปรรูปเป็นกระชายดำตากแห้งก็ไม่ยากมีขั้นตอนดังนี้
2.1 เลือกกระชายดำที่แก่เต็มที่มาทำการล้างให้สะอาด
2.2 นำไปต้มให้สุก แล้วสไลด์เป็นแผ่นบางๆ
2.3 นำไปตากแดง 4 แดด แค่นี้ก็จะได้กระชายดำตากแห้งไว้ใช้แล้วละ

ปล. กระชายดำตากแห้งก็สามารถนำมาดองเหล้า ดองน้ำผึ้ง ทำน้ำหมักได้ทุกอย่าง หรือว่าจะบดผง ทำเป็นแคปซูลไว้ทาน หรือทำเป็นชากระชายดำก็ได้

กระชายดำสด

กระชายดำอบแห้ง

สนใจกระชายดำโทรเลย 089-695-1800 ไร่ทายาท

การแปรรูปกระชายดำสดเป็นกระชายดำตากแห้ง

การแปรรูปกระชายดำในปัจจุบันนอกจากใช้กระชายดำสดเริ่มเป็นที่สนใจของผู้ที่รักสุขภาพมากขึ้น มีการนำมาเพื่อประกอบเป็นตัวยาต่างๆ เช่น ส่วนผสมของลูกประคบ กระชายดำดองน้ำผึ้ง กระชายดำดองเหล้า น้ำหมักระชายดำ สิ่งเหล่านี้จะทำในช่วงที่มีกระชายดำปริมาณเยอะๆ หรือช่วงที่เก็บเกี่ยว แต่เราจะทำอย่างไรให้กระชายดำมีใช้ได้ตลอดปี วันนี้ทางไร่ทายาทจะมาช่วยเราในการทำกระชายดำตากแห้งไว้ใช้ในช่วงที่ขาดกระชายดำสด หลังจากได้แปรรูปเป็นกระชายดำตากแห้งแล้วยังนำไปบดเป็นผง บรรจุซองชงน้ำร้อนดื่มบำรุงสุขภาพ ใส่แคปซุลทานได้ หรือจะจำหน่ายไปยังต่างประเทศก็ได้ เช่น เกาหลี จีน ญี่ปุ่น หรือแม้แต่คนไทยด้วยกัน  หรือจะนำมาหมักทำไวน์กระชายดำ
การแปรรูปกระชายดำตากแห้ง
1.   คัดเลือกกระชายดำสดที่แก่เต็มที่ นำมาล้างทำความสะอาด ผึ่งให้แห้ง
2. การทำกระชายดำมาสไลด์เป็นแผ่นๆ แว่นๆ บางๆ 
3. นำไปตากแห้ง 4 แดดจนแห้งได้ที่แล้วจึงนำมาเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น ซึ่งวิธีการนี้ จะช่วยให้เก็บรักษากระชายดำได้นาน

แค่นี้เราก็จะได้กระชายดำตากแห้ง เก็บไว้ใช้ได้ทั้งปี นำมาบด หรือต้มดื่ม หรือดองเหล้า ดองน้ำผึ้งได้ด้วยเช่นกัน



สนใจกระชายดำสด กระชายดำอบแห้ง โทร 089-695-1800 ไร่ทายาท

Thursday, December 8, 2016

Research report about black ginger part 2

PMID: 18614624 [PubMed - indexed for MEDLINE]
Aphrodisiacs past and present: a historical review.
Sandroni P.
Department of Neurology, Mayo Clinic, Rochester, Minnesota 55905, USA.


Abstract
The drug Viagra (sildenafil) has drawn public attention to aphrodisiacs. The search for such substances dates back millennia. Aphrodisiacs can be classified by their mode of action into 3 types: those that increase (1) libido, (2) potency, or (3) sexual pleasure. Various substances of animal and plant origin have been used in folk medicines of different cultures; some have been identified pharmacologically, allowing for understanding of their mechanisms of action. For increasing libido, ambrein, a major constituent of Ambra grisea, is used in Arab countries. This tricyclic triterpene alcohol increases the concentration of several anterior pituitary hormones and serum testosterone. Bufo toad skin and glands contain bufotenine (and other bufadienolides), a putative hallucinogenic congener of serotonin. It is the active ingredient in West Indian "love stone" and the Chinese medication chan su. The aphrodisiac properties are likely of central origin, as are the other effects of the drug. For increasing potency, Panax ginseng used in traditional Chinese medicine, works as an antioxidant by enhancing nitric oxide synthesis in the endothelium of many organs, including the corpora cavernosa; ginsenosides also enhance acetylcholine-induced and transmural nerve stimulation-activated relaxation associated with increased tissue cyclic guanosine monophosphate, hence the aphrodisiac properties. For increasing sexual pleasure, cantharidin ("Spanish fly") is a chemical with vesicant properties derived from blister beetles, which have been used for millennia as a sexual stimulant. Its mode of action is by inhibition of phosphodiesterase and protein phosphatase activity and stimulation of beta-receptors, inducing vascular congestion and inflammation. Morbidity from its abuse is significant. The ingestion of live beetles (Palembus dermestoides) in Southeast Asia and triatomids in Mexico may have a basis similar to cantharidin. It is of paramount importance for the physician to be aware of the options available to help his or her patients, and to advise them in using the correct drugs while avoiding "miracle" remedies that could be potentially harmful.




Planted : Plant in April and May.
Harvest : January.
Contact us : Tayat Farm
Phone : +66 896-95-1800
Email : saktayat@gmail.com
website : www.tayatfarm.com
#Kaempferia parviflora #Krachaidam #Black ginger #Black galinfale #herbinthailand #thaiherb #driedkaempferia

Research report about black ginger.

Research report
Bottom of Form
Reproduction. 2008 Oct;136(4):515-22. Epub 2008 Jul 9.
Effects of Kaempferia parviflora extracts on reproductive parameters and spermatic blood flow in male rats.
Chaturapanich G, Chaiyakul S, Verawatnapakul V, Pholpramool C.
Department of Physiology, Faculty of Science, Mahidol University, Rama VI Road, Bangkok 10400, Thailand.
Abstract
Krachaidum (KD, Kaempferia parviflora Wall. Ex. Baker), a native plant of Southeast Asia, is traditionally used to enhance male sexual function. However, only few scientific data in support of this anecdote have been reported.
The present study investigated the effects of feeding three different extracts of KD (alcohol, hexane, and water extracts) for 3-5 weeks on the reproductive organs, the aphrodisiac activity, fertility, sperm motility, and blood flow to the testis of male rats. Sexual performances (mount latency, mount frequency, ejaculatory latency, post-ejaculatory latency) and sperm motility were assessed by a video camera and computer-assisted sperm analysis respectively, while blood flow to the testis was measured by a directional pulsed Doppler flowmeter.
The results showed that all extracts of KD had virtually no effect on the reproductive organ weights even after 5 weeks. However, administration of the alcohol extract at a dose of 70 mg/kg body weight (BW)/day for 4 weeks significantly decreased mount and ejaculatory latencies when compared with the control. By contrast, hexane and water extracts had no influence on any sexual behavior parameters. All types of extracts of KD had no effect on fertility or sperm motility.
On the other hand, alcohol extract produced a significant increase in blood flow to the testis without affecting the heart rate and mean arterial blood pressure. In a separate study, an acute effect of alcohol extract of KD on blood flow to the testis was investigated. Intravenous injection of KD at doses of 10, 20, and 40 mg/kg BW caused dose-dependent increases in blood flow to the testis.
The results indicate that alcohol extract of KD had an aphrodisiac activity probably via a marked increase in blood flow to the testis.



Planted : Plant in April and May.
Harvest : January.
Contact us : Tayat Farm
Phone : +66 896-95-1800
Email : saktayat@gmail.com
website : www.tayatfarm.com
#Kaempferia parviflora #Krachaidam #Black ginger #Black galinfale #herbinthailand #thaiherb #driedkaempferia

Benefits of black ginger.

Benefits
·         Aphrodisiac activity (enhance sexual desire, sexual motivation and sexual performance)
·         Increasing sperm density and increasing condensation of lysosome in the basal part of Sertoli cells
·         Antiplasmodial, antifungal and mild antimycobacterial
·         Excellent antioxidant
·         Anti-inflammatory
·         Adaptogenic activity
·         Anti-allergic activity
·         Anticholinesterase activity (prevent and cure Alzheimer’s disease)
·         Anti-gastric ulcer effect
·         Antiobesity effects
·         Anxiolytic and antidepressant effects

Quality Control
Total Flavonoids are used for standardization of crude extract by UV-visible spectrophotometer or HPLC analysis and also for control the quality
 

Applications
·         Health food
·         Food / herbal supplement
·         Cosmetics
·         Cosmeceuticals

Dosage and Safety
·         Maximum dose depends on each country’s FDA restrict
·         Should not use if under 25 years of age, who are diagnosed with Hypertension, tumors/cancer in Prostate and Benign Prostatic Hyperplasia (BPH)

Packaging : Standard Package:
·         Plastic vacuum bag
Packaging can be provided in a variety of container types, depending on customs requirements.
 
Storage

Storage in cool and dry place away from light, excessive heat or freezing temperatures.
Shelf life: 2 years


Planted : Plant in April and May.
Harvest : January.
Contact us : Tayat Farm
Phone : +66 896-95-1800
Email : saktayat@gmail.com
website : www.tayatfarm.com
#Kaempferia parviflora #Krachaidam #Black ginger #Black galinfale #herbinthailand #thaiherb #driedkaempferia

About black ginger

About black ginger
Black Ginger (Kaempferia parviflora) is an herbaceous plant belonging to the Zingiberaceae family. It commonly grows in the tropical Asia. In Thailand it’s known as Krachai Dam; in Japan it is commonly referred as “black turmeric” or “black ginger”. Traditionally, it is used as an energy enhancer and general tonic. In South East Asia region, especially in Thailand, people drink tea boiled from sliced black ginger as well as alcohol soaked with black ginger. Alternatively, black ginger is commonly used a folk medicine for energy enhancement, and relief of gastrointestinal complaints.
Laboratory and animal studies have shown it to have properties that make it a useful treatment for treatment of allergy and allergic-related diseases, and for benign prostatic hyperplasia, as well as being ametabolic stimulant and anti-diabetic. A small human trial showed potential to improve peripheral blood circulation, strengthen blood vessels and relieve symptoms of oedema.

fresh black ginger
slice black ginger
Planted : Plant in April and May.
Harvest : January.
Contact us : Tayat Farm
Phone : +66 896-95-1800
Email : saktayat@gmail.com
website : www.tayatfarm.com
#Kaempferia parviflora #Krachaidam #Black ginger #Black galinfale #herbinthailand #thaiherb #driedkaempferia

Wednesday, November 16, 2016

Kaempferia parviflora or Black ginger

Scientific Name : Kaempferia parviflora Wall. ex Baker
Family Name : ZINGIBERACEAE
Local Name : Krachai dam (Thai) Black Ginger or Black Galingale
Ultilization : Root
Kaempferia parviflora is a herbaceous plant in the family Zingiberaceae, native to Thailand. Kaempferia parviflora has some historical and medicinal use for treating metabolic ailments and improving vitality in Thailand and surrounding regions. It is also reported to be an aphrodisiac compound and physical enhancer. The plant is a popular male aphrodisiac in the region.
It is used as filler in fiberglass planters manufactured in the region, as well as an alternative cure for psoriasis.
In Thailand, I am the owner of Tayat Farm. We planted this herb every year. Tayat Farm we have the fresh and dried product for our customer. Our product are export to Japan, Korea etc.
dry slice black giner for export

Planted : Plant in April and May.
Harvest : January.
Contact us : Tayat Farm
Phone : +66 896-95-1800
Email : saktayat@gmail.com
website : www.tayatfarm.com
#Kaempferia parviflora #Krachaidam #Black ginger #Black galinfale #herbinthailand #thaiherb #driedkaempferia

Dried slice black ginger

Dry slice black ginger 1 Kilogram, produce form 3.5-4 Kilograms of fresh black ginger. Each year I have to make the dry one 20-25 tons, 20,000-25,000 Kilograms. My ordered come from around the world such Korea, Japan, Taiwan, India, USA and China. Orders were 1, 100, 500 or 1000+ to 5000 Kilograms. This year 2016 came to end and new harvest is coming. 2017 I will provide the same for my customers. Quality is the first that I concerned.
slice black ginger
#black ginger

Interested contact.
Line Id: tayatfarm
Email: saktayat@gmail.com
Phone: +66-896951800

กระชายดำไวอาก้าประเทศไทย สรรพคุณเยอะกว่าโสมจีน

กระชายดำสุดยอดยาสมุนไพรบำรุงกำลัง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ 
กระชายดำไวอาก้าประเทศไทย สรรพคุณเยอะกว่าโสมจีน


#ปลูกเอง #ขายเอง #ส่งออกทั้งหมด 


สนใจโทร 089-6951800 ไร่ทายาท

Line Id : tayatfarm

กระชายดำดำสดราคา 110 บาทต่อกิโลกรัม 
กระชายดำอบแห้ง 650 บาทต่อกิโลกรัม 

เราส่งออกกระชายดำอบแห้งไป เกาหลี ญี่ปุ่น มานาน 10 ปี 


กระชายดำ 
การชายดำ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Kaempferia parviflora เป็นพืชในวงศ์ เดียวกับกระชาย ต่างกันตรงที่เหง้าของกระชายดำจะมีสีม่วงเข้มอมดำ บางที่เรียกว่า Black Ginger 
กระชายดำ เป็นสมุนไพรของไทยที่ใช้กันมานาน โดยมีสรรพคุณในด้านเสริมสมรรถภาพทางเพศ และเป็นยาอายุวัฒนะ ในสมัยโบราณจะใช้กระชายดำเป็นยาขับลม 
สารสำคัญในกระชายดำ มีสารฟลาโวนส์ 12 ชนิด ซึ่งมีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันการสลายตัวของเนื้อกระดูก ลดการเกิดโรคหัวใจ ต้านเบาหวาน ยับยั้งเอนไซม์ไลเปส จึงมีส่วนช่วยในการลดความอ้วน และยับยั้งมะเร็งรังไข่ โดยป้องกันการเกิดหลอดเลือดมาเลี้ยงเซลล์มะเร็ง 
งานวิจัยปัจจุบันพบว่า สารฟลาโวนส์ จากกระชายดำยับยั้งเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเตอเรส 5 ในกล้ามเนื้อเรียบขอบอวัยวะเพศชาย จึงช่วยในการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นกลไกเดียวกันกับยาไวอะกร้า 
การทดลองในหนู โดยการให้หนูรับประทานสารสกัดจากกระชายดำ พบว่าเพิ่มการไหลของโลหิตไปเลี้ยงที่อัณฑะ โดยไม่มีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ จึงยืนยันสรรพคุณของกระชายดำ ที่ใช้กันมาแต่โบราณ 
การวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พบว่าสารสกัดจากกระชายดำมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ทำลายเซลล์มะเร็งหลายชนิด และกระตุ้นกำหนัด (กระตุ้นความต้องการทางเพศ) ได้ทำการทดสอบความเป็นพิษ และรับรองแล้วว่ามีความปลอดภัย กระชายดำ จึงเป็นสมุนไพรที่ต้านความเสื่อมต่างๆ เช่น ความเสื่อมจากอนุมูลอิสระ ความเสื่อมของสมอง ความเสื่อมในระบบหมุนเวียนโลหิต ซึ่งส่งผลต่อหัวใจ และสมรรถภาพทางเพศ จึงต้านความชรา

แปลงปลูกกระชายดำ
กระชายดำมีสรรพคุณ 
1. กระชายดำใช้บำรุงกำลัง 
2. แก้ปวดเมื่อย และแก้อาการเหนื่อยล้า 
3. กระชายดำช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ 
4. ช่วยขับลม 
5. เป็นยาอายุวัฒนะ (เชื่อว่าช่วยบำรุงสมรรถภาพทางเพศชาย) 
6. แก้จุกเสียด แก้ปวดท้อง 
7. กระชายดำขับปัสสาวะ 
8. หรือโขลกกับเหล้าขาวคั้นน้ำดื่ม แก้โรคมดลูกพิการ มดลูกหย่อน 
9. ใช้กวาดคอเด็ก แก้โรคตานซางในเด็ก 
10. ต้มดื่มแก้โรคตา 
11. กระตุ้นระบบประสาท 
12. รักษาสมดุลความดันโลหิต 
13. กระชายดำช่วยขยายหลอดเลือดหัวใจ 
14. โรคเก๊าท์ 
15. ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร 
16. รักษาระบบการย่อยอาหารให้เกิดสมดุลย์ 
17. แก้โรคบิด 
18. รักษาผู้ป่วยเบาหวาน ลดระดับน้ำตาลในเลือด 

ลักษณะทางกายภาพและเคมีที่ดี 
ปริมาณน้ำไม่เกิน 10% w/w ปริมาณสิ่งแปลกปลอมไม่เกิน 2% w/w ปริมาณเถ้ารวมไม่เกิน 6% w/w ปริมาณเถ้าที่ไม่ละลายในกรดไม่เกิน 2% w/w ปริมาณสารสกัดด้วยเอทานอล ไม่น้อยกว่า 8% w/w ปริมาณสารสกัดด้วยน้ำ ไม่น้อยกว่า 17% w/w (THP III) 
ต้นกระชายดำสด

ตัวอย่างการใช้กระชายดำ 
การใช้กระชายดำเป็นยาแก้ปวดท้อง และยาอายุวัฒนะ ตามภูมิปัญญาไทย 
ใช้เหง้า (หัวสด) ประมาณ 4-5 ขีด ต่อสุราขาว 1 ขวด ดองสุราขาวดื่มก่อนรับประทานอาหารเย็น ปริมาณ 30 ซีซี หรือฝานเป็นแว่นบางๆ แช่น้ำดื่ม หรือดองน้ำผึ้งในอัตราส่วน 1:1 
ใช้เหง้าแห้งดองกับน้ำผึ้งในอัตราส่วน 1:1 นาน 7 วัน และนำมาดื่มก่อนนอน 

ข้อควรระวัง 
การรับประทานติดต่อกันนาน อาจทำให้เหงือกร่น และห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคตับ และในเด็ก การรับประทานในขนาดสูง ทำให้เกิดอาการใจสั่นได้ 

ฤทธิ์ต่อระบบสืบพันธุ์
สารสกัดกระชายดำด้วยเอทานอล โดยการกรอกสารเข้าสายในกระเพาะอาหาร พบว่าสามารถเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศผู้ของหนูขาวและสุนัขได้ นอกจากนี้การป้อนสารสกัดกระชายดำ ยังมีผลเพิ่มความหนาแน่นของอสุจิ และระดับ testosterone แต่ไม่ทำให้พฤติกรรมทางเพศเปลี่ยนแปลง สำหรับหนูขาวซึ่งได้รับสารสกัดแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูงขนาด 1,000 มก./กก. น้ำหนักตัว/วัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ สามารถป้องกันภาวะการผสมไข่ไม่ติด แต่สารสกัดขนาดดังกล่าวมีผลทำให้ตับโตขึ้น 

กระชายดำอบแห้ง 1 กิโลกรัม
การออกฤทธิ์เฉพาะ 
1. ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ 
พบคุณสมบัติของสาร 5,7,4- trimethoxyflavone และสาร 5,7,3,4- tetramethoxyflavone ออกฤทธิ์ต้านเชื้อ Plasmodium Falciparum (โรคมาเลเรีย), เชื้อ Canadida albicans และเชื้อ Mycobacterium และจากการศึกษาฤทธิ์ต้านจุลชีพของน้ำมันหอมระเหยจากกระชายดำ พบว่า สามารถต้านการเติบโตของเชื้อโรค S. aureus ได้ดี 
2. พิษต่อเซลล์มะเร็ง 
การใช้สารในกลุ่มฟลาโวนอยด์จากกระชายดำที่มีต่อเซลล์มะเร็งไม่พบสารใดที่ทำให้เกิดพิษต่อเซลล์มะเร็งได้ 
3. ฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดง 
การให้สารสกัดจากกระชายดำแก่หนูทดลอง พบว่า หลอดเลือดแดงใหญ่ (Aorta) ของหนูทดลองมีการขยายตัว รวมถึงช่วยลดการหดเกร็งของลำไส้ส่วนปลาย (ileaum) และช่วยยังยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดได้ 
4. ฤทธิ์ต้านอักเสบ 
สาร 5,7 –ไดเมธอกซีฟลาโวน (5,7-DMF) ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบไกล้เคียงกับยามาตรฐานหลายชนิด เช่น ไฮโดรคอร์ติโซน, อินโดเมธาซิน, แอสไพริน และเพรดนิโซโลน และออกฤทธิ์ต้านการอักเสบชนิดเฉียบพลันได้อย่างมีประสิทธิภาพดีกว่าแบบเรื้อรัง นอกจากนั้น ยังพบว่าสามารถยับยั้งอาการอุ้งเท้าบวมของหนูทดลองที่ได้รับสารสารคาราจีแนน และเคโอลินได้ดี 
ฤทธิ์สารสกัดกระชายดำช่วยลดการอักเสบของโรคข้อเข่าเสื่อม จากการทดลอง พบว่า สารสกัดจากเอทานอล และเฮกเซนสามารถยับยั้งการเกิดไนตริกออกไซด์ (NO) ในเซลล์เพาะเลี้ยงแมคโครฟาจได้ ซึ่งสามารถชี้บ่งถึงประสิทธิภาพสารสกัดกระชายดำในการยับยั้งสารที่ทำให้เกิดการทำลายของเซลล์ และเนื้อเยื่อได้ 

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 
1. ลำต้น และราก 
กระชายดำมีลำต้น 2 ชนิด คือ ลำต้นเหนือดิน (Aerial stem) และลำต้นใต้ดิน (Underground stem) ลำต้นเหนือดิน กลางลำต้นเป็นแกนแข็ง มีกาบใบล้อมรอบแน่น กาบใบหรือโคนใบมีสีแดง มีลักษณะอ่อนอวบ นุ่ม หุ้มแกนลำต้นไว้ ลักษณะคล้ายขมิ้นชันใบเดี่ยว แต่มีลำต้นเล็กกว่า และเตี้ยกว่าขมิ้นมาก 

ลำต้นใต้ดินหรือเรียก เหง้าหรือหัว มีลักษณะเป็นรูปวงกลมหรือวงรี เหง้ามีการเจริญเติบโตในแนวระนาบแผ่ขนานตามพื้นดิน เหง้าแก่มีแง่ง แตกออกด้านข้างจำนวนมาก แง่งมีลักษณะแตกเป็นแขนงย่อย มีรูปร่างไม่แน่นอน ลักษณะทั่วไปเป็นรูปกระบองหรือรูปหลอด ยาว 1.5-10 เซนติเมตร หนา 1-2 เซนติเมตร เปลือกด้านนอกมีสีออกสีน้ำตาลแกมสีส้มหรือสีแดง เหง้าที่แก่จะเปลี่ยนเป็นสีเทา เนื้อภายในมีสีน้ำตาลอ่อน สีน้ำเงินหรือสีดำ กลางเหง้ามีตาเจริญเป็นลำต้นเหนือดินหรือช่อดอก 
ส่งกระชายดำอบแห้งให้ลูกค้า

พันธุ์กระชายดำ 
พันธุ์กระชายดำ จำแนกตามสีที่พบบริเวณท้องใบ ก้านใบ ขอบใบ และสีเนื้อหัว ดังนี้ 
1. พันธุ์ใบแดง 
เป็นกระชายดำที่นิยมมากที่สุด มีลักษณะเหมือนกับกระชายดำทั่วไป แต่มีสีของใบที่เด่นสวยงาม คือ ด้านหลังใบมีสีแดงอมม่วง ด้านหน้าใบมีสีเขียว ขอบใบมีเส้นสีน้ำตาลอมแดง ลำต้น และก้านใบมีสีแดงอมม่วงเข้ม หัวมีลักษณะกลม สีเนื้อหัวเป็นสีม่วงเข้มจนถึงดำเหมือนสีลูกหว้า ทั้งนี้ ความเข้มของสีใบและสีเนื้อหัวจะขึ้นกับความอุดมสมบูรณ์ของดิน น้ำ และการดูแลรักษา เป็นพันธุ์ที่มีราคาแพงกว่าพันธุ์อื่นๆ ชาวบ้านมักเรียกว่า “สายพันธุ์ตัวผู้” 

2. พันธุ์ใบเขียว 
เป็นกระชายดำที่ได้รับความนิยมเหมือนกับพันธุ์ใบแดง พันธุ์นี้มีความแตกต่างกับพันธุ์ใบแดงที่สีใบจะเป็นสีเขียวนวลทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ลำต้น และกาบใบมีสีเขียวอย่างเดียว ก้านดอกมีสีเขียว กลีบดอกมีสีม่วงสวยงาม มีเส้นรอบกลีบดอกเป็นสีขาว เนื้อมีสีน้ำตาลจนถึงน้ำตาลเข้ม ลักษณะหัวกลมรีน้อยกว่าพันธุ์ใบแดง และราคาจะถูกกว่า ชาวบ้านมักเรียก “พันธุ์ตัวเมีย” 

3. พันธุ์กระชายขาวหรือว่านเพชรกลับ 
เป็นพันธุ์ที่พบมากตามป่า ลักษณะต่างจากกระชายดำ คือ มีลักษณะลำต้นทอดสูงเหมือนต้นขิง ความสูงประมาณ 80-90 เซนติเมตร กาบใบ และใบขึ้นสลับด้านข้างลำต้น ก้าบใบ และใบมีสีเขียว ด้านหลังใบมีสีม่วงเข้ม ดอกออกเป็นดอกเดี่ยว กลีบดอกด้านนอกมีสีขาวด้านในมีสีแดงแกมม่วง 

หัวมีลักษณะเหมือนกระชายดำทั่วไป แต่จำนวนแง่งต่อเหง้าน้อยกว่า สีเนื้อหัวมีสีขาว เป็นที่มาของชื่อ “กระชายขาว” หัวมีกลิ่น และรสชาติยังเหมือนกระชายดำ และมีสรรพคุณเหมือนกระชายดำทุกประการ 

ตามความเชื่อของคนชนบท หากนำหัวว่านกระชายขาวติดตัวเวลาเดินป่า ว่านจะช่วยไม่ให้หลงป่า และนำทางกลับ จึงเป็นที่มาของชื่อ “ว่านเพชรกลับ” หรือ “ว่านชักกลับ” จากการสำรวจพบมากที่ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก 

4. พันธุ์กระชายหอม/ว่านหอม/กระชายเหลือง 
เป็นพันธุ์ที่หายากในปัจจุบัน ไม่พบการปลูก และขายพันธุ์ให้เห็น ต้องเสาะแสวหาตามป่าลึก จึงทำให้มีราคาสูงกว่ากระชายดำพันธุ์ใบแดง และพันธุ์อื่นๆ ประมาณ 3-5 เท่าตัว เนื่องจากหายาก และเชื่อว่าสรรพคุณเหนือกว่ากระชายดำพันธุ์อื่นๆ 

กระชายหอมมีลักษณะต้น ใบ และราก เหมือนกับกระชายดำพันธุ์ใบเขียวทุกประการ แต่สีเนื้อหัวจะมีสีขาวอมเหลืองอ่อน ๆ และมีเอกลักษณ์ที่มีกลิ่นหอม ชวนรับประทานมากกว่ากระชายดำ 

กระชายดำ (เนื้อดำแท้) กับ กระชายม่วง (เนื้อสีดำแกมม่วง) 
กระชายดำ (ดำแท้) จะมีใบเขียวเกือบเข้ม และทรงใบเรียวยาวมากกว่ากระชายม่วง ใต้ใบ และขอบใบมีสีม่วงแกมอย่างเห็นได้ชัด ส่วนใบกระชายม่วงมีสีเขียวอ่อน ปลายค่อนข้างมน ขอบใบ และใต้ใบมีสีม่วงแกมเล็กน้อยหรือไม่มีเลย 

การปลูกกระชายดำ 
ฤดูปลูก 
ปลูกได้ทั้งปี แต่ฤดูปลูกที่เหมาะสมอยู่ในระหว่างเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 

การเตรียมหัวกระชายดำสำหรับปลูก 
หัวกระชายดำหัวหนึ่งจะมีหลายแง่ง ให้บิ(หัก)ออกมาเป็นแง่ง ๆ ถ้าแง่งเล็กก็ 2-3 แง่ง ถ้า แง่งใหญ่สมบูรณ์ก็แค่แง่งเดียวก็พอ เพราะเมื่อกระชายดำโตขึ้น กระชายดำก็จะแตกหน่อ และเกิดหัวกระชายดำหัวใหม่ขึ้นมาแทน และจะขยายหัวและหน่อออกไปเรื่อยๆ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา ส่วนหัวหรือแง่งที่ใช้ปลูกในตอนแรกจะเหี่ยวและแห้งไปในที่สุด ก่อนนำไปปลูก ควรทารอยแผลของแง่งกระชายดำที่ถูกหักออกมาด้วยปูนกินหมาก หรือจะจุ่มในน้ำยากันเชื้อราก็ได้ แล้วผึ่งในที่ร่มจนหมาดหรือแห้ง แล้วจึงนำไปปลูก(น้ำยากันเชื้อรามีจำหน่ายตามร้านเคมีภัณฑ์การเกษตรทั่วไป ขวดเล็กๆราคาไม่ถึงร้อยบาทก็มี) 

การปลูกลงในกระถาง 
ควรใช้กระถางที่มีขนาดกลาง -ใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15-18 นิ้ว เพื่อให้มีพื้นที่ในการขยายหัวหรือเหง้า ใส่วัสดุปลูกให้มาก ๆ ประมาณ 3 ใน 4 ส่วนของกระถาง (ปุ๋ยคอก 1 ส่วน/ดิน 2 ส่วน) จะทำให้ได้หัวที่มีคุณภาพและมีปริมาณหัวต่อต้นมาก การปลูกในกระถางควรใช้หัวหรือเหง้า ประมาณ 3-5 หัว (แง่ง) แล้วแต่ขนาดของกระถาง 

การปลูกลงแปลง 
ต้องเตรียมแปลงปลูก โดยการพรวนดินตากแดดทิ้งไว้นาน 5-7 วัน เพื่อปรับสภาพดิน ยกร่องกว้างประมาณ 1.50 เมตร ขุดหลุมลึกประมาณ 10 - 15 ซม.ใส่ปุ๋ยคอกให้พอเหมาะ แล้วทำการปลูก ระยะห่างระหว่างหลุมและแถวประมาณ 30 X 30 ซม. ใส่หัวหรือเหง้า 2-3 หัว (แง่ง) ต่อหลุม แล้วกลบหลุมรดน้ำให้ชุ่ม 

การปลูกในไร่ (กรณีปลูกปริมาณมาก ๆ) 
การเตรียมดิน 
ควรไถ 2 ครั้ง ครั้งแรกไถพรวนเพื่อย่อยดิน ทำการยกร่องปลูก ระหว่างต้นประมาณ 25-30 ซม. ก่อนปลูกควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพดินในอัตรา 200 - 400 กก./ไร่ ทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน โดยฝังเง้าหรือหัวพันธุ์ลงในหลุมปลูกลึก ประมาณ 5-10 ซม.ในพื้นที่ 1 ไร่ จะใช้เหง้าพันธุ์ประมาณ 160-200 กก. 

การดูแลรักษา 
เมื่อต้นกระชายดำอายุได้ 1 เดือน ควรดายหญ้ากำจัดวัชพืชพร้อมทั้งใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1,000 กก./ไร่ (ไม่ควรใส่ปุ๋ยเคมีเพราะจะทำให้หน่อกระชายดำที่เกิดใหม่ยาว และสีของหัวกระชายดำไม่ดำ ทำให้คุณภาพเปลี่ยนไป) และเมื่อต้นกระชายดำอายุได้ 2 เดือน ให้พรวนดินกลบโคนต้นควรมีการปลูกซ่อมในหลุมที่ไม่งอก 

การเก็บเกี่ยว 
เมื่อกระชายดำอายุได้ 10-12 เดือน สังเกตจากใบและลำต้นจะเริ่มเหี่ยวแห้งและหลุดออกจากต้น ระยะนี้ คือ ระยะพักตัวของกระชายดำเพราะจะทำให้กระชายดำมีโอกาส ได้สะสมอาหารและตัวยาได้เข้มข้นอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะขยายพันธุ์ต่อไป จึงเป็นระยะที่เก็บเกี่ยวได้ดี ทำให้ได้กระชายดำที่มีคุณภาพดี กระชายดำที่ปลูกในเขตพื้นที่อำเภอนาแห้ว - อำเภอภูเรือ จะได้รับผลผลิตประมาณ 650-900 กก./ไร่ 

การเก็บรักษาพันธุ์ 
กระชายดำที่แก่จัดจะมีอายุประมาณ 11-12 เดือน หัวจะต้องสมบูรณ์ อวบใหญ่ปราศจากเชื้อโรค เก็บไว้ในที่แห้งและเย็นนาน ประมาณ 1-3 เดือน จึงจะนำไปปลูกต่อได้ 

กระชายดำแบบหัวสด 
การรับประทาน: ใช้รากเหง้า(หัวสด) ประมาณ 4-5 ขีด ต่อสุราขาว 1 ขวด ดองสุราขาวดื่มก่อนรับประทานอาหารเย็น ปริมาณ 30 ซีซี. ผู้ที่ดื่มสุราไม่ได้ ให้ฝานเป็นแว่นบางๆ แช่น้ำร้อนดื่มทุกวัน หรือจะดองกับน้ำผึ้งก็ได้ ในอัตราส่วน 1:1 

กระชายดำหัวแห้ง 
กรรมวิธีการผลิต: 
การทำกระชายดำแบบฝานเป็นแว่นอบแห้ง ก็โดยการนำหัวสดของกระชายดำไปล้าง ทำความสะอาด นำมาฝานเป็นแว่น แล้วนำเข้าตู้อบ อบให้แห้งที่อุณหภูมิสูง จนแห้งได้ ที่แล้ว จึงนำมา เก็บไว้ในที่แห้งและเย็น ซึ่งวิธีการนี้ จะช่วยให้เก็บรักษากระชายดำได้นาน 

การรับประทาน: 
หากไม่ใช่คอเหล้าที่มักนิยมนำไปดอง กับเหล้าขาวก็มักหั่นเป็น ชิ้น นำไปตากแห้งแล้วมาต้มกับน้ำรับประทาน บางตำราบอกให้นำหัวกระชายดำหั่นตากแห้งสด ไปดองกับน้ำผึ้งแท้ 7 วันนำมาดื่มก่อนนอน อาจจะนำมาปั้นเป็นลูกกลอนก็ได้ 

รายละเอียดวิธีใช้: 
หัวแห้ง ประมาณ 15 กรัม (1 กล่อง) ดองกับเหล้าขาว 1 แบน ผสมน้ำผึ้งเพื่อรสชาดที่ดีขึ้นได้ตามชอบใจ ดื่มก่อนนอนวันละ 30 ซีซี. ( 1 เป็ก) 
หัวแห้ง ดองกับน้ำผึ้งแท้ในอัตราส่วน 1:1 
หัวแห้ง บดเป็นผงละเอียด ผสม น้ำผึ้ง พริกไทยป่น กระเทียมผง บอระเพ็ดผง ในอัตราส่วน 10 : 5 : 2 : 1 : 0.5 

กระชายดำแบบชาชง 
กรรมวิธีการผลิต: 
นำหัวกระชายดำที่ฝานเป็นแว่น อบให้แห้ง แล้วนำมาบดให้ละเอียด แล้วจึงบรรจุซอง กระชายดำแบบชาชง จะไม่มีส่วนผสมอื่นอีก จะมีแต่กระชายดำแท้ 100% เท่านั้น 

วิธีใช้: 
กระชายดำ 1 ซอง ชงน้ำร้อน 1แก้ว (ประมาณ 120 ซีซี.) 

ข้อแนะนำ: 
หากต้องการรสชาติที่ดีขึ้น สามารถแต่งรสด้วยน้ำตาล หรือน้ำผึ้ง ตามชอบใจ 

ลูกอมกระชายดำ 
ศูนย์การศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเลยร่วมกับกลุ่มโซนศรีสองรัก ได้จัดทำ ผลิตภัณฑ์ ลูกอมสมุนไพร เพื่อสุขภาพ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอ นาแห้ว จ. เลย 

ส่วนประกอบ: 
1.กระชายดำ 2.นมสด 3.เนยอย่างดี 4.น้ำตาลทราย 5.แบะแซ 

ไวน์กระชายดำ 
ตามความหมายในภาษาอังกฤษนั้น ไวน์ (wine) หมายถึง "เหล้าองุ่น"เท่านั้น ตามกระแสนิยม สำหรับคนไทยนั้น คำว่า "ไวน์" หมายถึง ผลไม้ หรือสมุนไพรที่นำมาหมักแล้วได้แอลกอฮอล์ ไม่เกิน 15 ดีกรี ซึ่งกรรมวิธีผลิตก็ทำเช่นเดียวกับไวน์ในต่างประเทศ แต่ในกฎหมายไทยตามพระราชบัญญัติสุราฯ นั้นเรียกว่า "สุราแช่" ดังนั้น อนุโลมที่จะเรียกผลไม้หรือสมุนไพรที่นำมาหมักว่า "ไวน์" และต่อท้ายด้วยชื่อผลไม้หรือสมุนไพรที่นำมาทำเป็นวัตถุดิบนั้น เช่น ไวน์สัปปะรด ไวน์ลูกยอ ไวน์ลูกหม่อน เพราะไม่สามารถที่หาคำใดมาเรียก ได้เหมาะสม และเข้าใจได้ง่าย 

สนใจติดต่อไร่ทายาท 0896951800 
line ID: tayatfarm